15471 จำนวนผู้เข้าชม |
โบท็อกซ์หน้าเรียว
Q: การฉีดโบท็อกซ์เพื่อหน้าเรียว จริงๆแล้ว ช่วยให้หน้าเล็กลงได้อย่างไร
A: โบท็อกซ์ไปช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามมัดใหญ่ มัดหนึ่งบริเวณกรอบหน้า พอกล้ามเนื้อมัดนี้เล็กลง จึงทำให้หน้าเล็กลง
Q: อยู่ได้นานแค่ไหน
A: ถ้าเป็นครั้งแรกที่ฉีด จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน แต่ถ้าเคยฉีดมาก่อนแล้ว ครบ 6 เดือนมาซ้ำ จะอยู่ได้นานขึ้นอีก ประมาณ 6-8 เดือน เนื่องจากกล้ามเนื้อจะไม่กลับไปใหญ่เท่าเดิมแล้ว หากฉีดติดต่อกันไปเรื่อยๆสัก 1-2 ปี อาจจะฉีดแค่ปีละ 1 ครั้งพอค่ะ
Q: เห็นผลเมื่อไหร่
A: หลังฉีดไป 2 สัปดาห์จะเริ่มเห็นผลคือ จะเริ่มกัดฟันแล้วกล้ามเนื้อไม่ค่อยขึ้นมาเป็นก้อนๆ บางคนอาจจะมีอาการเคี้ยวแล้วเมื่อยได้บ้าง แต่ถ้าหากไม่มีอาการ ก็ไม่ต้องตกใจว่าโบท็อกซ์ไม่ออกฤทธิ์ เนื่องจากการปรับตัวของกล้ามเนื้อแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน
Q: ฉีดแล้วยิ้มแข็ง หน้าแข็ง จริงไหม
A: ไม่จริงค่ะ การที่ฉีดแล้วหน้าแข็ง ยิ้มแข็ง เกิดจากการที่ตัวยา กระจายไปโดนกล้ามเนื้อมัดที่ทำให้มุมปากยิ้ม พอโบท็อกซ์ไปโดน จึงทำให้เหมือนยิ้มได้ไม่สุด ยิ้มแข็ง ซึ่งอาจมีสาเหตุได้ ดังต่อไปนี้
เพราะฉะนั้นแล้วหมอจะต้องระวังในการฉีดเป็นพิเศษ ใช้โดสยาที่เหมาะสม ฉีดในตำแหน่ง และความลึกที่พอดี และนัดติดตามอาการทุกเคส
Q: จะรู้ได้อย่างไร ว่าเราเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้หน้าเรียว
A: อันดับแรกหมอจะต้องประเมินก่อน ว่ามีส่วนไหนของใบหน้าที่จะสามารถลดได้ กล้ามเนื้อ หรือ ไขมัน ถ้ากล้ามเนื้อเยอะ จึงเลือกฉีดโบท็อกซ์ หากไขมันเยอะ จึงเลือกฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมัน แต่หากกล้ามเนื้อก็ไม่ได้ใหญ่มาก ไขมันก็ไม่ได้เยอะเด่นมาก อาจจะต้องใช้ทั้ง 2 วิธีร่วมกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Q: โบท็อกซ์จะช่วยลดเหนียงด้วยหรือไม่
A: ไม่ค่ะ เนื่องจากเหนียง เป็นส่วนของไขมัน ตัวโบท็อกซ์นั้นลดได้แต่กล้ามเนื้อ จึงไม่สามารถลดไขมันได้ อาจจะต้องใช้เมโสแฟต ลดไขมันบริเวณเหนียงแทน หรือใช้การยกกระชับเพื่อช่วยให้เหนียงไม่ย้อย ต้องประเมินเป็นรายเคสไปค่ะ ว่าจะเหมาะกับแบบไหน
Q: โบท็อกซ์สะสมหรือไม่ มีผลเสียในระยะยาวอย่างไร
A: โบท็อกซ์ไปออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อ ไม่มีการสะสม มีฤทธิ์อยู่ได้แค่ 4-6 เดือน จากนั้นก็ก็ถูกขับออกจากร่างกายเหมือนสารอื่นๆ โดยไม่ได้สะสมในร่างกาย ไม่มีผลเสียระยะยาว มีการใช้มาแล้วกว่าหลายสิบปี ยังไม่มีการรายงานผลข้สงเคียงระยะยาว
Q: ฉีดแล้ว หยุดฉีดไม่ได้จริงหรือไม่
A: ไม่จริงค่ะ สามารถหยุดฉีดได้ และไม่ได้มีผลเสีย เพียงแค่กล้ามเนื้อจะกลับไปใหญ่เท่าเดิม เท่านั้นเอง ไม่มีการเหี่ยวกว่าเดิม หรือ หน้าใหญ่กว่าก่อนฉีดแน่นอนค่ะ
Q: มีคนแพ้โบท็อกซ์หรือไม่
A: เคยมีการรายงานการแพ้โบท็อกซ์ค่ะ แต่น้อยมากๆๆ อาการไม่รุนแรง เท่าที่หมอเคยเจอคือ มีผื่นขึ้นบริเวณที่ฉีดไป ทายาประมาณ 2 วัน ก็หาย
Q: ฉีดบ่อยๆ ดีหรือไม่
A: ไม่ดีค่ะ ถ้าฉีดบ่อยเกินไปจะทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ได้ บ่อยเกินไป คือบ่อยกว่า 4 เดือน 1 ครั้ง
Q: ควรใช้ยี่ห้อเดิม ซ้ำๆ หรือเปลี่ยนยี่ห้อบ่อยๆ ดีกว่ากัน
A: ควรใช้ยี่ห้อเดิม ไม่ควรเปลี่ยนยี่ห้อบ่อย เนื่องจากมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า คนที่เปลี่ยนยี่ห้อบ่อยๆจะมีโอกาสการดื้อโบท็อกซ์ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่เปลี่ยนยี่ห้อ แต่โอกาสการดื้อก็น้อยค่ะ คือประมาณ 0.1% แต่ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
Q: ดื้อโบท็อกซ์เป็นอย่างไร
A: ฉีดแล้วไม่ได้ผล เช่น ฉีดลดริ้วรอย ริ้วรอยไม่ลดลงเลย ฉีดลดกราม กรามไม่เล็กลงเลย
Q: ถ้าดื้อโบท็อกซ์แล้ว ทำอย่างไรดี
A: ควรเว้นการฉีดโบท็อกซ์ไปเลย 1-2 ปี แล้วค่อยลองกลับมาฉีดใหม่ เลือกตัวที่มีโปรตีนต่ำ เช่น Xeomin เยอรมัน หรือ Allergan Botox อเมริกา
คำถามพบบ่อย เกี่ยวกับโบท็อกซ์
Q: โบท็อกซ์ฉีดตรงไหนได้บ้าง
A:
Q: จริงๆแล้วโบท็อกซ์ คืออะไร
A: โบท็อกซ์ จริงๆเป็นชื่อทางการค้า หรือชื่อยี่ห้อนั่นเอง เป็นชื่อยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่มาจากอเมริกา บริษัท Allergan ชื่อยาจริงๆคือ Botulinum Toxin (โบทูลินัม ท็อกซิน) ในวงการแพทย์ จะชอบเรียกกันว่า Toxin แต่คำติดปากที่ทุกคนเรียกกันคือ โบท็อกซ์นั่นแหละค่ะ ในบทความต่างๆ หมอขออนุญาตใช้คำว่า โบท็อกซ์นะคะ เพื่อความเข้าใจง่าย
Q : หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไป จะเห็นผลเมื่อไหร่ ?
A:
Q : หลังฉีดโบท็อกซ์ไปอยู่ได้นานเท่าไหร่ ?
A:
Q: หลังหมดฤทธิ์ โบท็อกซ์ตกค้างหรือไม่
A: โบท็อกซ์แท้สลายหมด 100% ค่ะ ไม่มีการสะสม ไม่ตกค้างในร่างกาย ไม่มีอันตรายในระยะยาวค่ะ
Q : โบท็อกซ์อเมริกา ต่างจาก โบท็อกซ์เกาหลีอย่างไร ?
A : ในแง่ความตึง พอๆกัน อยู่ได้นานเฉลี่ย 4-6 เดือน แต่โบท็อกซ์ Allergan อเมริกาอยู่ได้นานกว่า ของเกาหลีประมาณ 1 เดือน เริ่มเห็นผลตอน 5-7 วันเท่าๆกัน
แต่โบท็อกซ์ Allergan ของอเมริกา มีความบริสุทธิ์มากกว่าค่ะ ตามข้อมูล โบท็อกซ์ Allergan อเมริกา บริสุทธิ์ 99.5% ส่วนของเกาหลี 98.7% ยิ่งบริสุทธิ์มากโอกาสในการดื้อยา ก็จะน้อยกว่า แต่ % ไม่ได้ต่างกันมาก โดยที่ราคาโบท็อกซ์ อเมริกา สูงกว่าเกาหลี ถ้าถามหมอ ถ้าต้องการความเป็นธรรมชาติ จากการฉีดริ้วรอย และมีงบ แนะนำ โบท็อกซ์อเมริกาค่ะ แต่ถ้าโบท็อกซ์กรามไม่มีความแตกต่างกันในแง่ความเป็นธรรมชาติค่ะ
Q : หลังจากฉีดโบท็อกซ์ ควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง ?
A :
Q : ฉีดโบท็อกซ์กรามแล้วหน้าจะตอบหรือไม่ ?
A : ถ้าฉีดในตำแหน่งที่เหมาะสม ถูกต้อง ความลึกที่เหมาะสม ชั้นกล้ามเนื้อที่ถูก จำนวนยาที่ไม่มากเกินไป จะไม่ทำให้แก้มตอบ ไม่ดูโทรมแน่นอนค่ะ
Q : ถ้าดื้อโบท็อกซ์ แก้ไขอย่างไร ?
A : ตอนนี้ยังไม่มีวิธีแก้ไข หรือรักษาค่ะ ได้แต่หยุดฉีดไปก่อน 1-2 ปี จึงค่อยมาลองฉีดซ้ำอีกครั้งโดยใช้ตัวโบท็อกซ์ที่อาจได้ผลในคนที่เคยดื้อโบท็อกซ์ คือ Xeomin ของเยอรมันค่ะ แต่ไม่ได้ผล 100% อาจจะมีแค่บางคนที่ได้ผลค่ะ
Q : โบท็อกซ์แท้ ดูยังไง ?
A :
แสกน QR Code แอดไลน์ สอบถาม หรือจองคิวได้เลยค่ะ